Loading...
Loading...
Loading...

077-276-999

    

เกิดจากการขาดสารอาหารบางอย่าง เช่น Vitamin B1, B12, Folate ซึ่งพบได้ในผู้ที่มีภาวะขาดสารอาหารอย่างรุนแรง หรือมีประวัติผ่าตัดลำไส้-กระเพาะออกไปบางส่วน ทำให้มีผลต่อการดูดซึมพวก Vitamin และเกลือแร่ที่สำคัญ ที่มีผลทำให้เส้นประสาทตาเสื่อมได้ถ้าขาดสารอาหารเหล่านี้อย่างรุนแรง รวมถึงการบุหรี่ สุรา ติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือการบริโภคยาบางชนิด เช่น ยารักษาวัณโรค (Ethambutol, Isoniazid), ยารักษาโรคหัวใจบางตัว, ยาปฏิชีวนะบางตัว และสารพวกตะกั่ว เป็นต้น

สาเหตุของเส้นประสาทตาอักเสบเชื่อว่าเกิดจากภาวะคุ้มภูมิกันในร่างกายเราเกิดการต่อต้านเนื้อเยื่อของตัวเอง ก่อให้เกิดการอักเสบตามด้วยการเสื่อมของปลอกหุ้มเส้นประสาทตา ซึ่งโดยปกติปลอกหุ้มเส้นประสาทตาจะทำหน้าที่ในการนำกระแสประสาทจากลูกตาไปยังสมอง เมื่อเกิดการเสื่อมทำให้การนำกระแสประสาทเสียไป ปัญหาของภาวะโรคเส้นประสาทตาอักเสบ (optic neuritis) คือ ในผู้ป่วยบางรายอาจมีการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้

อาการของโรคเส้นประสาทตาอักเสบ

โรคเส้นประสาทตาอักเสบมักพบในช่วงอายุ 20 - 45 ปี พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย มักเป็นข้างเดียว แต่หากเป็นในตาทั้ง สองข้างถือเป็นปัจจัยเสี่ยงอันหนึ่งที่จะเกิดโรค MS ตามมา ผู้ป่วยมักมาด้วยอาการตามัวลงค่อนข้างเร็ว การมองเห็นสีเพี้ยนไป ปวดในลูกตาโดยเฉพาะเวลากลอกตาไปมา บางครั้งอากาศร้อน หรือการออกกำลังกายที่ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเป็นตัวกระตุ้นให้ตามัวได้

วิธีการรักษา

ในปัจจุบันการรักษายังมีหลากหลายความเห็นโดยตัวโรคเมื่อเวลาผ่านไปมักจะมีการฟื้นกลับมาของการมองเห็นได้เอง แต่อาจมีการมองเห็นสีที่ผิดเพี้ยนไปเล็กน้อยได้ สำหรับการให้ยาทางเส้นเลือดจำพวกสเตียรอยด์อาจช่วยให้การฟื้นของการมองเห็นเร็วขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิด MS ในช่วง 3 ปีแรก แต่ในระยะยาวพบว่าไม่ได้ช่วยป้องกันการเกิด MS และไม่ได้มีความแตกต่างของผลการมองเห็นเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ยาใด ๆ เลย ฉะนั้นแพทย์อาจไม่ได้ให้ยาในผู้ป่วยโรคนี้ทุกราย อาจพิจารณาให้เฉพาะในผู้ที่การมองเห็นลดลงอย่างรุนแรงหรือตามัวทั้งสองข้าง

โรคปลอกประสาทอักเสบ (demyelinating disease) ของระบบประสาทส่วนกลาง เป็นโรคที่มีการอักเสบของปลอกประสาทที่หุ้มเส้นประสาทในสมอง เส้นประสาทตา และไขสันหลัง เมื่อมีการอักเสบของปลอกประสาทส่งผลให้การนำกระแสประสาทของอวัยวะนั้นผิดปกติ ทำให้เกิดอาการและอาการแสดงของโรค เช่น เส้นประสาทตาอักเสบทำให้มีอาการตามัว มองไม่ชัด หรือ ไขสันหลังอักเสบทำให้มีอาการแขนขาชาหรืออ่อนแรง เป็นต้น โรคปลอกประสาทอักเสบของระบบประสาทส่วนกลางชนิดที่พบบ่อยมี 2 โรค ได้แก่ มัลติเพิลสเคอโรสิสหรือเอ็มเอส (multiple sclerosis หรือ MS) และนิวโรมัยอิลัยติสออฟติกาหรือเอ็นเอ็มโอ (neuromyelitis optica หรือ NMO) ทั้งสองโรคมีลักษณะอาการและอาการแสดงคล้ายกัน แต่มีความแตกต่างกันในส่วนของสาเหตุ กลไกการเกิดโรค รวมถึงการรักษา

3.1 โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) หรือโรค MS

เป็นการอักเสบของระบบประสาทส่วนกลางที่มีหน้าที่นำสื่อประสาท ส่งผลกระทบต่อสมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาทตา เนื่องจากถูกภูมิคุ้มกันทำลายเพื่อป้องกันใยประสาทจนเกิดแผลที่เนื้อเยื่อนั้นขึ้น มักพบผู้ป่วยในเพศหญิงวัยทำงานตั้งแต่ 18-45 ปี แต่ผู้ชายหรือสตรีอายุเท่าไหร่ ก็สามารถป่วยเป็นโรคนี้ได้ อีกทั้งในความรุนแรงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หนักถึงขั้นใช้ชีวิตประจำวันอย่างลำบากหรือทุพพลภาพได้

เกิดจากอะไร

ปัจจุบันทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถทำการวิจัยให้ข้อมูลออกมาว่าอะไรคือสาเหตุของโรค แต่มีข้อสันนิษฐานจากปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้

  • พันธุกรรม ไม่ใช่โรคที่ถ่ายทอดกันรุ่นสู่รุ่น แต่ถ้าบุคคลภายในครอบครัวเป็นก็มีความเสี่ยง
  • ติดเชื้อไวรัส EVB จะส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันเกิดความเปลี่ยนแปลงที่บริเวณต่อมน้ำเหลืองโตขึ้น
  • ขาดวิตามินดี
  • การสูบบุหรี่
  • โรคบางชนิด ลำไส้อักเสบ, เบาหวาน, ไทรอยด
อาการของโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
  • การมองเห็น มีอาการเจ็บตา, มองไม่ชัด, เห็นภาพซ้อน มักจะเกิดขึ้นข้างใดข้างหนึ่ง
  • สมอง คิด ตัดสินใจ จำข้อมูลได้ช้า
  • อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า
  • การทรงตัว แขน ขาอ่อนแรงหรือกระตุก มือสั่น ล้มง่าย
  • การพูด ออกเสียงไม่ชัด เคี้ยวอาหารลำบาก
  • ระบบขับถ่าย ปัสสาวะบ่อย กลั้นไม่ค่อยอยู่ ท้องผูก
  • นอกจากนี้ยังรู้สึกชาบริเวณใบหน้า เมื่อขยับคอจะเหมือนโดนไฟดูด
วิธีการรักษา
  1. ใช้ยาชะลออาการ เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่หายขาด และยามีผลข้างเคียง ดังนั้นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่าง เคร่งครัด ซึ่งจะมีตัวยา ได้แก่สเตียรอยด์, ยาคลายกล้ามเนื้อ, ยาแก้ปวด
  2. กายภาพบำบัด เพื่อลดอาการเกร็งของแขน ขา และเดินเซ โดยการยืดเส้น เล่นโยคะ จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัว รวมทั้งอาจมีการฉีดยาคลายกล้ามเนื้อร่วมด้วย
แนวทางป้องกัน
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • รับประทานอาหารที่ประโยชน์
  • ผ่อนคลายความเครียดอย่างถูกสุขลักษณะ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
  • สังเกตร่างกาย หากมีความผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์
3.2 โรคปลอกประสาทอักเสบ (Neuromyelitis optica) หรือโรค MNO


อาการของโรคปลอกประสาทอักเสบ
  • เส้นประสาทตาอักเสบ ทำให้มีอาการตามัวลงอย่างเฉียบพลันในเวลาเป็นวันถึงหลายสัปดาห์ ความรุนแรงเป็นได้ ตั้งแต่อาการตามัวเพียงเล็กน้อยจนถึงตาบอดมืดสนิท อาการตามัวมักเป็นตาข้างเดียวและภาพที่มองไม่ชัดมักเริ่มจากบริเวณตรงกลางของลานสายตา อาการอื่นที่พบร่วมได้แก่ กลอกตาแล้วเจ็บภายในเบ้าตา
  • ไขสันหลังอักเสบ ผู้ป่วยมีอาการผิดปกติได้หลายลักษณะ ได้แก่ อาการชาบริเวณแขน ขา ลำตัว กล้ามเนื้อแขนหรือขาอ่อนแรง โดยอาการชาหรืออ่อนแรงอาจเป็นข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง มีการควบคุมขับถ่ายอุจจาระปัสสาวะผิดปกติ อาจเป็นเบ่งปัสสาวะอุจจาระไม่ออกหรือกลั้นไม่อยู่ อาการไขสันหลังอักเสบของผู้ป่วยโรคเอ็นเอ็มโอมักรุนแรงกว่าโรคเอ็มเอส และฟื้นตัวน้อยกว่า
  • ปลอกประสาทในสมองอักเสบ ผู้ป่วยมีอาการผิดปกติได้หลายลักษณะ ได้แก่ อาการเห็นภาพซ้อน เดินเซ แขนขา อ่อนแรงครึ่งซีก ชาครึ่งซีก ซึมลง สะอึกไม่หยุด คลื่นไส้อาเจียนต่อเนื่องที่ไม่ทราบสาเหตุ โรคการหลับผิดปกติ ความรู้สึกตัวลดลง เป็นต้น
แนวทางป้องกัน

การรักษาประกอบด้วย การรักษาจำเพาะและการรักษาอาการต่าง ๆ ของโรค การรักษาจำเพาะ แบ่งเป็นสองระยะ ได้แก่

  1. ระยะกำเริบเฉียบพลัน การรักษาหลักในปัจจุบัน คือ การฉีดยาสเตียรอยด์ทางเส้นเลือด 3-7 วัน ขึ้นกับอาการของผู้ป่วยและยากินสเตียรอยด์หลังจากยาฉีด ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับยาสเตียรอยด์แล้วอาการดีขึ้นน้อย แพทย์อาจพิจารณาการเปลี่ยนถ่ายพลาสมา (plasma exchange) 5-7 ครั้ง ขึ้นกับอาการของผู้ป่วยเป็นหลัก
  2. ระยะโรคสงบ เนื่องจากธรรมชาติของตัวโรคมักมีการกำเริบเป็นระยะ จึงจำเป็นต้องมียาเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ ซึ่งมีหลายชนิด ในประเทศไทย (พ.ศ.2565) มียากินและยาฉีดทางหลอดเลือด





SURAT EYE HOSPITAL

โรงพยาบาลจักษุสุราษฎร์

โรงพยาบาลเฉพาะทางดูแลทางด้านดวงตา โดยจักษุแพทย์ที่มีมาตรฐานวุฒิบัตรวิชาชีพ
มีประสบการณ์ มีความมุ่งมั่น ห่วงใยและใส่ใจในการตรวจรักษา ดูแลและให้คำปรึกษาผู้เข้ารับบริการ อย่างครบวงจร


OPENING HOUR

สามารถติดต่อเข้ารับการรักษาได้ตามเวลา

จันทร์ - ศุกร์

08:00 - 20:00 น.

เสาร์ - อาทิตย์

08:00 - 16:00 น.

44/1 ถนนศรีวิชัย ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000

surateyehospital@gmail.com

077-276-999, 099-048-6660

@surateyehospital