Loading...
Loading...
Loading...

077-276-999

    
ซ่อน

LASIK คืออะไร?

เลสิค (LASIK : Laser In-Situ Keratomileusis) คือ การรักษาภาวะสายตาผิดปกติ รวมถึง สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุ โดยการใช้ใบมีดไมโครเคอราโตม (Microkeratome) แยกชั้นกระจกตา และ ใช้ Excimer Laser ปรับความโค้งกระจกตา ซึ่งเป็นมาตรฐานการรักษาภาวะสายตาผิดปกติที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลกว่า 20 ปี และในการผ่าตัดแก้ไขสายตา สิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งคือการเลือกใช้นวัตกรรม นำสมัย อย่าง Femto LDV Z8 พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Ziemer Ophthamic Systems ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่จะมีความแม่นยำในการตัดแยกชั้นกระจกตามากขึ้นสามารถ กำหนดตำแหน่งศูนย์กลางให้ตรงกับการมองเห็นของดวงตา เพื่อกำหนดตำแหน่ง การรักษา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการทำเลสิค อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี OCT ที่ตรวจดูความหนาและตำแหน่งของกระจกตาที่แม่นยำ ช่วยในการวางแผนผ่าตัดได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคือการใช้เลเซอร์ที่มีพลังงานต่ำความถี่สูงทำให้กระจกตาสามารถแยกได้ อย่างสมบูรณ์ แผลมีผิวเรียบ ลดความบอบช้ำและลดโอกาสเกิดรอยฝ้าในกระจกตา ร่วมกับเครื่องเลเซอร์ WaveLight EX500 Excimer Laser เทคโนโลยีจากบริษัท Alcon ประเทศเยอรมนี ที่ได้รับการไว้วางใจในความแม่นยำในการปรับความโค้งกระจกตา เพื่อแก้ไขค่าสายตาเฉพาะบุคคลได้อย่างละเอียดตามมาตรฐานสากลมาอย่างยาวนาน ทั้งยังใช้เนื้อกระจกตาตาน้อย ใช้เวลาในการยิงเลเซอร์แก้ค่าสายตาที่รวดเร็ว มี Eye Tracking System ช่วยให้สามารถยิงเลเซอร์ในตำแหน่งที่ถูกต้อง แม้มีการเคลื่อนไหว ของลูกตาขณะที่ยิงเลเซอร์ ทำให้ได้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีขึ้น

เทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษาด้วย Lasik ภายในศูนย์

เพื่อให้การตรวจประเมินก่อนเข้ารับการรักษามีความละเอียด การวางแผนการรักษามีความแม่นยำ ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้ารับการ รักษาทีมแพทย์ประจำศูนย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านกระจกตาโดยเฉพาะ และนักทัศนมาตร จะตรวจประเมินร่วมกับเครื่องตรวจพิเศษ อย่างการดูความแข็งแรงของกระจกตาด้วยเครื่อง CORVIS, การวัดความโค้งและพื้นผิวของกระจกตาด้วยเครื่อง PENTACAM HR, TOPOLYZER และ GALILEI G6

Card image cap
Card image cap
Card image cap
Card image cap
Image

ประเภทการรักษา

Card image cap
Card image cap
Card image cap
Card image cap

PRK (Photorefractive Keratectomy) เป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ รวมถึง สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุ โดยการใช้ Excimer Laser ขัดเนื้อกระจกตาชั้นกลาง โดยไม่มีขั้นตอนการแยกชั้นกระจกตา ซึ่งเป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติวิธีแรก ๆ และเป็นวิธีที่มีมาก่อนการรักษาสายตาผิดปกติด้วยวิธี LASIK และยังใช้จนถึงปัจจุบัน ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่มีกระจกตาบาง ไม่สามารถรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยวิธีอื่น ๆ ได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพบางอาชีพ สำหรับผู้ที่มีสายตาผิดปกติ เช่น สอบนักบิน แอร์โฮสเตส ทหาร ตำรวจ ฯลฯ

Image

ขั้นตอนการรักษาด้วยวิธี PRK

  • จักษุแพทย์จะทำการลอกผิวกระจกตาชั้นนอกสุด (ที่เรียกว่า Epithelium)
  • ใช้ Excimer Laser ขัดเนื้อกระจกตาชั้นกลาง เพื่อเปลี่ยนความโค้งของกระจกตา
  • ใส่คอนแทคเลนส์เพื่อช่วยลดอาการระคายเคืองประมาณ 3-5 วัน

ผู้ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาด้วยวิธี PRK

  • คนไข้ที่มีข้อจำกัดทางตา หรือโรคทางตาบางประเภท
  • มีกระจกตาบาง ไม่สามารถรักษาด้วยวิธี LASIK (เลสิค), FemtoLASIK, ReLEx SMILE หรือ Super ReLEx (SMILE Pro) ได้
  • มีค่าสายตาสั้นและค่าสายตาเอียงรวมกันไม่เกิน -8.00 Diopter
  • มีประวัติกระจกตาถลอกง่าย หรือมีประวัติการลอกหลุดของกระจกตา (Recurrent Corneal Erosion)
  • มีภาวะตาแห้ง
  • ข้อจำกัดทางด้านอาชีพ เช่น สอบนักบิน ทหาร ตำรวจ
  • ความโค้งกระจกตาผิดรูปไม่เหมาะกับการแยกชั้นกระจกตา

ข้อดีของการรักษาด้วยวิธี PRK

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีกระจกตาบาง
  • ลดความเสี่ยงในกรณีที่อาจจะแยกชั้นกระจกตาไม่ได้ เช่น ตาเล็ก หรือเบ้าตาลึก
  • ไม่มีรอยแยกของชั้นกระจกตา
  • เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพบางอาชีพ เช่น สอบนักบิน ทหาร ตำรวจ

ข้อจำกัดของการรักษาด้วยวิธี PRK

  • ระยะเวลาการหายของแผลนานกว่าการรักษาภาวะสายตาผิดปกติวิธีอื่น ๆ
  • จำเป็นต้องมีการใส่คอนแทคเลนส์ เพื่อลดอาการระคายเคืองของแผลหลังทำการผ่าตัดประมาณ 3-5 วัน
  • การตรวจติดตามหลังผ่าตัด ในช่วงสัปดาห์แรก จะมีความถี่มากกว่าการรักษาประเภทอื่น ๆ
  • หลังทำการรักษา คนไข้จะมีความไม่สบายตา อาจมีอาการแสบตา ระคายเคืองตา ลืมตาไม่ขึ้น สู้แสงไม่ได้ น้ำตาไหล มองเห็นภาพไม่ชัดเจน ซึ่งระดับอาการดังกล่าว จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ บางท่านอาจรู้สึกเหมือนปกติไม่มีอาการใด ๆ


Trans PRK เป็นวิธีการแก้ไขสายตา สั้น ยาว เอียง เช่นเดียวกับวิธีเลสิค แต่ Trans PRK จะใช้เลเซอร์ (Excimer Laser) ลอกเอาผิวกระจกตาออก (Epithelium) แล้วปรับความโค้งกระจกตาในขั้นตอนเดียว ด้วยเทคโนโลยีของเครื่อง Schwind Amaris ที่สามารถแก้ไขสายตาด้วยวิธี “No-Touch” Treatment จึงปราศจากการสัมผัสดวงตาทุกขั้นตอน ไม่มีการล็อคดวงตา, การตัด, การสัมผัส ใช้เพียงแสง Laser เท่านั้น แตกต่างกับการทำ PRK รูปแบบเก่าที่ต้องใช้อุปกรณ์ในการขูดผิวกระจกตาออก จึงสามารถลดอาการระคายเคืองตาหลังทำ แผลหายเร็วขึ้น ลดโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อที่ดวงตาได้ดีขึ้น

Image

ขั้นตอนการรักษาด้วยวิธี Trans PRK

  • ใช้ excimer laser ขัดผิวกระจกตาออก
  • เลเซอร์ปรับความโค้งแก้ไขสายตา

ผู้ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาด้วยวิธี Trans PRK

  • คนที่กระจกตาบาง คนที่ตาเล็ก
  • คนที่ชอบกีฬาผาดโผน
  • คนที่จะสอบเป็นนักเรียนเตรียมทหาร หรือนักบิน
  • ทำงานหน้าคอม, มือถือ, กิจกรรมกลางแจ้ง, ออกกำลังกาย, ทำอาหาร, ขับรถ
  • มีสายตาสั้นตั้งแต่ -0.75 Diopter ถึง -5.00 Diopter , เอียง -0.75 Diopter ถึง -3.00 Diopter และยาว(โดยกำเนิด) +0.75 ถึง +3.00 Diopter
  • สายตาสั้นนิ่งคงที่ ดูจากสายตาเปลี่ยนแปลงไม่เกิน +- 0.75 D ภายใน 1 ปี
  • ต้องไม่มีโรคของกระจกตา, ต้อหิน, ต้อกระจก, เบาหวาน, ตาแห่งรุนแรง, SLE, HIV
  • ต้องไม่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ และต้องงดให้นมบุตรอย่างน้อย 3 เดือน
*เป็นวิธีใหม่ที่แตกต่างจาก PRK แบบเดิม โดยใช้เลเซอร์ลอกผิวกระจกตาแทนการใช้ สารละลายแอลกอฮอล์ มีเฉพาะในเครื่องรุ่นใหม่บางรุ่นเท่านั้น

ข้อดีของการรักษาด้วยวิธี Trans PRK

  • แผลหายเร็วกว่า PRK แบบเดิม เพราะแผลเล็กและเรียบกว่า
  • การมองเห็นกลับมาเร็วกว่าคือประมาณ 2 สัปดาห์ เทียบกับ PRK แบบเดิม ที่ใช้เวลา 3-4 สัปดาห์
  • เป็น 1 step, no touch เทคนิค ใช้เวลารักษาสั้นและรวดเร็ว ทำให้คนไข้ร่วมมือในการรักษาได้ดีขึ้น
  • เพิ่มโอกาสของการรักษาในคนสายสั้นมากกว่า 500
  • ทำได้ในคนที่กระจกตาค่อนข้างบาง (แต่ต้องหนามากกว่า 470 ไมครอน) หรือคนที่มีตาเล็กที่ไม่สามารถทำเลสิคได้
  • ความแข็งแรงของกระจกตาหลังการรักษามากกว่าวิธีอื่น
  • ตาแห้งน้อยกว่าเลสิค
  • ผลการมองเห็นสุดท้ายเทียบเท่าเลสิค


  • FemtoLASIK เป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ รวมถึง สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุ โดยการเปิดกระจกตา ด้วย Femtosecond Laser และปรับความโค้งกระจกตาด้วย Excimer Laser
  • FemtoLASIK เป็น “Bladeless LASIK” ถูกพัฒนาจาก LASIK โดยการใช้ Femtosecond Laser แทนใบมีด Microkeratome ในการเปิดชั้นกระจกตา
  • FemtoLASIK และ LASIK เป็น concept การผ่าตัดเดียวกัน เพียงแต่เทคโนโลยีแตกต่างกัน

Image

ขั้นตอนการรักษาด้วยวิธี FemtoLASIK

  • ใช้ Visumax Femtosecond Laser ในการแยกชั้นกระจกตา
  • ใช้เครื่องมือยกชั้นกระจกตาขึ้นเพื่อเตรียมพื้นที่กระจกตาชั้นกลาง ให้พร้อมสำหรับการปรับความโค้งกระจกตาด้วยเลเซอร์
  • ใช้ Excimer Laser ปรับเปลี่ยนความโค้งกระจกตา
  • ปิดกระจกตาที่แยกชั้นไว้กลับไปที่ตำแหน่งเดิม ซึ่งกระจกตาจะสามารถสมานตัวเองได้ หลังจากที่ถูกปิดลง โดยไม่ต้องเย็บแผลใด ๆ

ผู้ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาด้วยวิธี FemtoLASIK

  • มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป และมีสายตาคงที่อย่างน้อย 1 ปี (กรณีคนไข้อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันที่นัดผ่าตัด กรุณานำผู้ปกครองมาเซ็นเอกสารเพื่อยินยอมการผ่าตัด ทางรพ.สามารถปฏิเสธการผ่าตัดได้ หากไม่มีผู้ปกครองมาด้วย)
  • ไม่มีโรคของกระจกตา เช่น โรคกระจกตาย้วย ตาแห้งอย่างรุนแรง และโรคตาอย่างอื่น เช่น จอประสาทตาเสื่อม
  • ไม่มีโรคทางร่างกายที่มีผลต่อการหายของแผล เช่น โรค SLE, โรค Sjogren's syndrome, โรคสะเก็ดเงิน, โรคภูมิคุ้มกันเกินอื่นๆ รวมทั้งเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี
  • ไม่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
  • ไม่อยู่ระหว่างการใช้ยาในการรักษาอาการทางจิตเวช
  • ผ่านการตรวจวิเคราะห์สภาพตาโดยจักษุแพทย์ของ SHE และยืนยันว่า คนไข้มีสุขภาพตาสมบูรณ์แข็งแรง สามารถเข้ารับการรักษาได้ตามมาตรฐานความปลอดภัยสากล
  • มีความเข้าใจถึงการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ ด้วยวิธี FemtoLASIK อย่างละเอียด และมีความคาดหวังที่ถูกต้อง

ข้อดีของการรักษาด้วยวิธี FemtoLASIK

  • เป็นการรักษาที่อ่อนโยนต่อดวงตามากกว่าการรักษาด้วยวิธีเลสิค (LASIK) เพราะใช้ Femtosecond Laser แทนใบมีด
  • ลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงในการแยกชั้นกระจกตา
  • แยกชั้นกระจกตาได้แม่นยำกว่าการรักษาด้วยวิธีเลสิค (LASIK)
  • สามารถรักษาสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุได้
  • สามารถแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติ สายตาสั้นร่วมสายตาเอียง ได้ถึง -12.00 Diopter


ReLEx Clear เป็นเทคโนโลยีล่าสุด ในการรักษาภาวะสายตาสั้น เอียง โดยใช้แสงเลเซอร์ ใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบแผลเล็ก ไร้ใบมีด ในการผ่าตัดด้วยวิธี ReLEx Clear นี้ คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด อาจจะมีความรู้สึกบ้างว่ามีอุปกรณ์มาสัมผัสบนตาเบา ๆ แต่ไม่เจ็บ หลังการผ่าตัดจะมีแผลที่ขอบกระจกตาเพียง 2-4 mm. ทำให้กระจกตายังคงความแข็งแรงอยู่ ลดภาวะเสี่ยงของฝากระจกตาเคลื่อนได้ อีกทั้งยังมีความแม่นยำสูงเพราะเป็นการรักษาโดยใช้การปรับแต่งเนื้อเยื้อภายในชั้นเนื้อกระจกตาโดยการคำนวณค่าชิ้นเนื้อกระจกตาเป็นรูปร่าง 3 มิติ ที่เรียกว่า Lenticule ด้วยเลเซอร์ความเร็วสูง (Femtosecond Laser) แล้วดึงออกผ่านแผลขนาด 2-4 mm. เมื่อ Lenticule ถูกดึงออกไปแล้ว ผิวหน้าของกระจกตาจะทำการปรับสภาพตามรูปแบบความโค้งเองตามค่าสายตาที่ตั้งไว้

Image

ผู้ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาด้วยวิธี ReLEx CLEAR

  • มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีสายตาคงที่อย่างน้อย 1 ปี
  • หากผู้เข้ารับการรักษาอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ ต้องมีผู้ปกครองมาด้วย
  • ไม่เป็นโรคตาชนิดอื่น เช่น โรคกระจกตาย้วย , ตาแห้งอย่างรุนแรง , ต้อหิน , จอประสาทตาเสื่อม
  • ไม่มีโรคทางร่างกายที่มีผลต่อการหายของแผล เช่น โรค SLE, โรค Sjogren's syndrome, โรคสะเก็ดเงิน, โรคภูมิคุ้มกันเกินอื่นๆ รวมทั้งเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี
  • ไม่อยู่ในช่วงใช้ยารักษาสิว เช่น Roaccutane, Acnotin, Isotret ต้องหยุดยาก่อนวันตรวจวิเคราะห์สภาพตา และก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 1 เดือนเต็ม เนื่องจากยาชนิดนี้ ส่งผลให้เยื่อบุต่าง ๆ แห้งกว่าปกติ รวมถึงผิวกระจกตาด้วย
  • หากใช้ยารักษาโรคประจำตัวอื่น ๆ ใดอยู่ กรุณาแจ้งให้แพทย์ทราบในวันตรวจ เช่น เบาหวาน, ความดัน, ไขมัน, ยาธัยรอยด์ และยานอนหลับทุกชนิด แต่ท่านยังคงใช้ยาได้ตามปกติ ไม่ต้องหยุดยาใด ๆ ในวันตรวจ
  • สตรีไม่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร (กรณีประจำเดือนกลับมาแล้ว 2 รอบ สามารถทำได้)
  • ไม่ได้อยู่ระหว่างการใช้ยาในการรักษาอาการทางจิตเวช
  • ผ่านการตรวจวิเคราะห์สภาพตาโดยจักษุแพทย์ว่าสุขภาพตาสมบูรณ์แข็งแรง สามารถเข้ารับการรักษาด้วย ReLEx ได้ตามมาตรฐานความปลอดภัย
  • มีความเข้าใจถึงการผ่าตัดด้วย ReLEx อย่างละเอียด และมีความคาดหวังที่ถูกต้อง

ข้อดีของการรักษาด้วยวิธี ReLEx CLEAR

  • คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด และหลังทำผ่าตัดจะเคืองตาน้อยกว่าวิธีอื่น
  • สามารถแก้ไขสายตาสั้น เอียง ได้มากขึ้น เพิ่มโอกาสสำหรับคนที่ไม่สามารถทำ Femto Lasik หรือ Lasik แบบใบมีดได้
  • เนื่องจากการผ่าตัดมีแผลเล็ก ทำให้กระจกตายังคงความแข็งแรงอยู่
  • ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่น อาการตาแห้ง
  • ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อยกว่าวิธีอื่น ทำให้คนไข้รู้สึกสบาย ๆ ไม่เกร็ง

ทีมเเพทย์

Card image cap
Card image cap
Card image cap
Card image cap

ตารางเเพทย์

Image

เตรียมตัวก่อน - หลังทำเลสิค

ทำ "เลสิค" ต้องเช็คอะไรบ้าง?

  1. ตรวจวัดระยะการมองเห็น
  2. ตรวจวิเคราะห์สภาพดวงตาด้วยเครื่องมือพิเศษ
    • วัดความหนาของกระจกตา
    • วัดความแข็งแรงของกระจกตา
    • วัดความดันตา
    • ความโค้งของกระจกตา
  3. ตรวจสภาวะตาแห้ง และหยอดตาขยายม่านตาเพื่อตรวจจอประสาทตา
  4. ตรวจสภาพตาและวัดสายตา โดยจักษุแพทย์

Image

การเตรียมตัวก่อนมาทำ Lasik

  • งดใช้คอนแทคเลนส์ทุกชนิดก่อนตรวจอย่างน้อย 7 วัน
  • งดใช้ยารักษาสิวอย่างน้อย 1 เดือนก่อนเข้าตรวจเพราะจะทำให้ตาเเห้ง
  • ในวันตรวจประเมินสายตาและวันผ่าตัดควรพาเพื่อนหรือญาติมาด้วย เพื่อดูเเล เนื่องจากมีการหยอดยาขยายม่านตาจะทำให้สายตาพร่ามัวประมาณ 4-6 ชม.
  • ในวันที่มาทำเลสิค ควรสระผมมาให้พร้อม
  • สวมเสื้อที่มีกระดุมติดทางด้านหน้า เพื่อจะได้ถอดสะดวก
  • งดการฉีดน้ำหอม เพราะน้ำหอมจะทำให้แสงเลเซอร์ทำงานผิดปกติ

อาการที่อาจเกิดขึ้นได้หลังผ่าตัดในระยะแรก

  1. อาการระคายเคืองตา รู้สึกแสบตา คล้ายมีเม็ดทรายอยู่ในตา ตาพร่า ตาสู้แสงไม่ได้ มักมีอาการมากในคืนแรก และในช่วง 1-5 วันแรกหลังการผ่าตัด
  2. น้ำตาไหลมาก อาจมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลร่วมด้วย
  3. อาการปวดตา ในคืนแรกหลังการผ่าตัด
  4. การมองเห็นภาพไม่ชัดเจน เกิดขึ้นได้ในช่วงสัปดาห์แรก โดยเฉพาะเวลาอ่านหนังสือ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น เนื่องจากต้องใช้เวลาปรับการมองเห็นกับความโค้งของกระจกตาใหม่
  5. อาการตาแห้ง เนื่องจากผลจากการผ่าตัด ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้น
  6. ภาวะแสงกระจายรอบไฟ (Glare)

Image

การปฏิบัติตัวทั่วไปหลังการรักษา

  1. หยอดน้ำตาเทียมบ่อย ๆ เพื่อลดอาการตาแห้ง โดยหยอดครั้งละ 1 หยด ทุก 1-2 ชั่วโมง หรือตามแพทย์สั่ง
  2. หลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องปิ้ง ย่าง และแอลกอฮอล์ เป็นเวลา 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
  3. ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในเวลากลางวัน หากจำเป็นแนะนำ สวมแว่นกันแดดที่กัน UV 100% ทุกครั้งที่ออกจากบ้านเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อป้องกันฝุ่นควัน ช่วยให้ผิวกระจกตาสมานไวขึ้น เนื่องจากแสง UV เป็นสิ่งเร้าให้เกิดฝ้าที่กระจกตาได้
  4. ห้ามถอด contact lens ด้วยตัวเองเด็ดขาด หากหลุดไม่แนะนำให้ใส่กลับเอง ควรเดินทางเพื่อพบแพทย์ทันที
  5. ควรปิดฝาครอบนอน เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการขยี้ตาหรือโดนแผลขณะหลับ
  6. ห้ามขยี้ตา หรือบีบตาแรง อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  7. งดใช้สายตาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ตาล้าตาแห้งและระคายเคืองได้ในช่วงแรก แนะนำใช้ 20-20-20 ruleคือ ทุก ๆ 20 นาทีให้พักสายตา 20 วินาทีและมองไกล ๆ ไปยังสิ่งที่อยู่ไกลกว่า 20 ฟุต (หรือ 6 เมตร)
  8. ระวังไม่ให้น้ำเข้าตา และแนะนำให้สระผมที่ร้านอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  9. งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  10. ควรมาตรวจตามแพทย์นัดทุกครั้ง

ระยะเวลาที่แนะนำให้เริ่มกิจกรรมได้หลังทำเลสิค

  1. สามารถว่ายน้ำได้ หลังจาก 1 เดือนหลังการผ่าตัด
  2. สามารถดำน้ำลึกได้ หลังจาก 3 เดือนหลังการผ่าตัด
  3. กิจกรรมออกกำลังกายอื่น ๆ เช่น วิ่ง สามารถทำได้ แต่ระมัดระวังไม่ให้เหงื่อเข้าตา
  4. งดแต่งหน้ารอบดวงตา 2 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางเข้าตา

ข้อปฏิบัติที่แนะนำเพื่อให้ฟื้นฟูดวงตาหลังผ่าตัด

  1. หยอดน้ำตาเทียมบ่อย ๆ จะช่วยให้แผลสมานไว และลดอาการระคายเคือง
  2. ไม่ใช้สายตาเยอะในช่วงแรก พยายามนอนพักผ่อน การใช้สายตาเยอะจะทำให้ตาแห้ง
  3. หลีกเลี่ยงแสงแดด และถ้าจำเป็นใส่แว่นกันแดดกัน UV 100% เพราะแสง UV ทำให้เกิดฝ้ากระจกตาได้
  4. รับประทาน vitamin C ช่วยให้แผลสมานไว และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระลดการเกิดฝ้าที่กระจกตา

ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลสิค และนัดหมายปรึกษาแพทย์ ทางศูนย์เลสิค โรงพยาบาลจักษุสุราษฎร์ ได้ที่
📞 Call : 077 276 999 ต่อ 122 (ศูนย์เลสิค)
📥 Facebook : ศูนย์เลสิค จักษุสุราษฎร์ Surat Eye Lasik Center
💬 Line Official : https://lin.ee/8yOKYFj

เเพ็กเกจโปรโมชัน

บทความ



SURAT EYE HOSPITAL

โรงพยาบาลจักษุสุราษฎร์

โรงพยาบาลเฉพาะทางดูแลทางด้านดวงตา โดยจักษุแพทย์ที่มีมาตรฐานวุฒิบัตรวิชาชีพ
มีประสบการณ์ มีความมุ่งมั่น ห่วงใยและใส่ใจในการตรวจรักษา ดูแลและให้คำปรึกษาผู้เข้ารับบริการ อย่างครบวงจร


OPENING HOUR

สามารถติดต่อเข้ารับการรักษาได้ตามเวลา

จันทร์ - ศุกร์

08:00 - 20:00 น.

เสาร์ - อาทิตย์

08:00 - 16:00 น.

44/1 ถนนศรีวิชัย ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000

surateyehospital@gmail.com

077-276-999, 099-048-6660

@surateyehospital

ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล