Loading...
Loading...
Loading...

077-276-999

    
ซ่อน

เกี่ยวกับศูนย์อัลตราซาวนด์และรังสีวินิจฉัย

ศูนย์อัลตราซาวนด์และรังสีวินิจฉัย โรงพยาบาลจักษุสุราษฎร์ ให้บริการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของโรคด้วยการถ่ายภาพรังสี ครอบคลุมการตรวจทางรังสีทั่วไป (Digital Radiography) และการตรวจพิเศษต่าง ๆ ด้วยเครื่องมือทางรังสีวิทยาที่มีคุณภาพด้วยวิธีการที่ได้มาตรฐาน ถูกต้อง และแม่นยำ ภายใต้การดูแลของรังสีแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสามารถ เพื่อให้ได้ภาพที่สามารถใช้ในการวินิจฉัยและรักษาโรค รวมทั้งปลอดภัยต่อผู้รับบริการ โดยเทคโนโลยีระบบจัดการข้อมูลภาพรังสีดิจิตอล PACS (Picture Archiving and Communication System) โดยมีขอบเขตการบริการดังนี้
  • ระบบจัดการข้อมูลภาพรังสีดิจิตอล (PACS)
  • การตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ระบบดิจิตอล (Digital Radiography)
  • การตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์(Ultrasound)
  • การตรวจวินิจฉัยเต้านม (Mammography)
  • การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram)
  • การเอ็กซเรย์ปอด
  • การตรวจเอ็กซเรย์โพรงมดลูก และท่อนำไข่ เพื่อตรวจหาสาเหตุในภาวะการมีบุตรยาก (Hysterosalpingogram)
  • ตรวจหาสิ่งแปลกปลอม หากผู้ป่วยได้รับสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกายหรือการกลืนวัตถุต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย
  • ตรวจมวลกระดูก หรือการตรวจดูความหนาแน่นของกระดูก (Bone Densitometry) เป็นการตรวจหาค่าความหนาแน่น ของกระดูกทั่วร่างกายตามส่วนต่าง ๆ เช่น กระดูกสันหลัง กระดูกสะโพก ข้อมือ และกระดูกทั้งตัว ตรวจภาวะกระดูกพรุน เป็นต้น

บริการตรวจรักษา

การเตรียมตัวก่อนการเอ็กซเรย์ โดยปกติแล้วสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ยกเว้นกรณีที่ผู้เข้ารับการตรวจบางราย จำเป็นต้องใช้สารเคมีในการตรวจ ควรงดการทานอาหารและยา และไม่ควรนำเครื่องประดับหรือโลหะ ติดตัวเข้าไป นอกจากนี้หากผู้ตรวจกำลังตั้งครรภ์ควรรีบบอกแพทย์ทันทีเพื่อเลื่อนการตรวจออกไปก่อน
ขั้นตอนการเอ็กซเรย์ ผู้เข้ารับการตรวจอาจต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่โรงพยาบาลกำหนดไว้เมื่อเข้าสู่การเอ็กซเรย์ให้จัดท่าทางของร่างกายตามคำสั่งของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้เข้ารับการตรวจจำเป็นต้องอยู่นิ่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนที่สุด นอกจากนี้ผู้เข้า รับการตรวจบางรายอาจจำเป็นต้องใช้สารเคมีช่วยในการตรวจด้วย หลังจากที่เครื่องทำการเอ็กซเรย์เสร็จสิ้น แพทย์จะนำผลที่ได้ไป วินิจฉัยต่อไป
หลังการทำเอ็กซเรย์ ผู้เข้ารับการตรวจสามารถกลับบ้านหรือรอฟังผลได้เลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนผู้ที่จำเป็นต้องใช้สารทึบรังสี ในการตรวจนั้นไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผลกระทบ เพราะสารที่ใช้มีปริมาณรังสีที่น้อยมาก อย่างไรก็ตามอาจมีผลกระทบเกิดขึ้นกับร่างกายได้ เช่น ตาพร่ามัว อุจจาระมีสีซีด หรือมีผื่นขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้หากพบอาการผิดปกติสามารถเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ได้


1. การตรวจอวัยวะในช่องท้องส่วนบน

  • ตับ ม้าม ถุงน้ำดีและช่องท้องทั่วไป
  • ตรวจหาก้อนเนื้อในช่องท้องส่วนบน ตรวจนิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในทางเดินปัสสาวะ
  • ตรวจหลอดเลือดแดงใหญ่ของช่องท้อง ดูการตีบ-ตัน
การเตรียมตัว : ผู้ใหญ่งดอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการตรวจ ในเด็กอาจลดลงเหลือเพียง 3-4 ชั่วโมง

2. การตรวจอวัยวะในช่องท้องส่วนล่าง เป็นการตรวจดูอวัยวะภายในช่องท้อง

  • มดลูก รังไข่ ต่อมลูกหมาก และไส้ติ่ง
การเตรียมตัว : ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้มีน้ำในกระเพาะปัสสาวะมากพอที่จะดันลำไส้ขึ้นไปส่วนบนทำให้เห็นอวัยวะต่าง ๆ ได้ชัดเจนขึ้น

3. การตรวจอวัยวะในช่องท้องทั้งหมด ตรวจดูอวัยวะในช่องท้องทั้งหมด

  • ตับ ม้าม ถุงน้ำดี ไต
  • มดลูก รังไข่ ต่อมลูกหมาก กระเพาะปัสสาวะ และไส้ติ่ง
การเตรียมตัว : ควรงดอาหาร และเครื่องดื่มที่มีไขมันทุกชนิด ประมาณ 4-6 ชั่วโมง (แต่ดื่มน้ำเปล่าได้) พร้อมกลั้นปัสสาวะเอาไว้ เพราะจะทำให้มองเห็นอวัยวะในช่องท้องทั้งหมดได้อย่างชัดเจน

4. การตรวจอัลตราซาวนด์การตั้งครรภ์

เป็นการใช้เครื่องอัลตราซาวนด์ส่งคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านมดลูกเพื่อตรวจดูทารกในครรภ์ คลื่นเสียงมีความถี่สูงกว่าที่หูมนุษย์จะได้ยิน คลื่นเสียงจะปล่อยออกจากคริสตัลขนาดเล็กที่สั่นสะเทือนอยู่ในหัวตรวจทรานสดิวเซอร์เป็นวิธีการตรวจที่เงียบ และไม่เจ็บปวดทั้งกับแม่และเด็ก ระหว่างการตรวจอัลตราซาวนด์คลื่นเสียงจะกระทบกับตัวเด็กแล้วจะเกิดการสะท้อนกลับ ออกมาแปลงผลลัพธ์เป็นภาพบนหน้าจอให้เห็นแบบเรียลไทม์ทันทีมองเห็นเด็กเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ และเตะท้องแม่ได้อย่างชัดเจน สามารถวัดอายุการตั้งครรภ์ ขนาดของเด็กทารกในครรภ์ การตรวจ 4 มิติเพื่อดูใบหน้าของเด็กในครรภ์ รวมถึงความผิดปกติอื่น ๆ ซึ่งควรตรวจในอายุครรภ์ 24-32 สัปดาห์ขึ้นไป


Image

การบริการตรวจแมมโมแกรม เป็นการตรวจหาความผิดปกติบริเวณเนื้อของเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม ซึ่งเป็นการตรวจทางรังสีชนิดพิเศษ สามารถคัดกรองดูมะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกและเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการคัดกรองมะเร็งเต้านม วิธีนี้เป็นการตรวจที่แม่นยำ สามารถดูคราบหินปูน ถุงน้ำ หรือก้อนเนื้อที่เต้านมได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ใช้เวลาตรวจเพียง 30 นาที และไม่ต้องงดน้ำและอาหาร เนื่องจากเนื้อเยื่อภายในเต้านมของผู้หญิงมีความหนาแน่นที่แตกต่างกัน คนที่เนื้อเต้านมหนาแน่นมาก อาจทำให้บดบังก้อนมะเร็งหรือมองเห็นผิดพลาด แพทย์จึงมักแนะนำให้มีการตรวจด้วยวิธีการอัลตราซาวนด์ควบคู่กับแมมโมแกรม
  • การตรวจแมมโมแกรมสำหรับคนทั่วไป แนะนำให้ทำเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป โดยทำปีละครั้ง แต่ในกรณีที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มีกรรมพันธุ์มะเร็งเต้านมในครอบครัว ควรเริ่มต้นค้นหาเร็วกว่าปกติ 5-10 ปี


การบริการตรวจมวลกระดูก เป็นการตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูก (Bone Mineral Density หรือ BMD) ด้วยเครื่องตรวจ DEXA Scan (Dual Energy Xray Absorptiometry Scan) เป็นเครื่องตรวจวัดความหนาแน่นของมวลกระดูก โดยใช้ X-ray พลังงานต่ำ 2 พลังงานในการตรวจ ผู้รับการตรวจจะได้รับปริมาณรังสีน้อย ซึ่งปริมาณรังสีที่ได้รับในแต่ละครั้งของการตรวจจะน้อยกว่าการตรวจ X-ray ปอดปกติทั่วไป โดยเป็นวิธีที่มีความแม่นยำสูงและถูกกำหนดให้เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคกระดูกพรุน โดยองค์การอนามัยโลก (WHO)

Image

การเตรียมตัวก่อนการตรวจ

  • ผู้รับการตรวจควรแจ้งแพทย์หรือนักรังสีเทคนิค หากสงสัยว่าตั้งครรภ์ ซึ่งการตรวจนี้จะไม่ทำการตรวจในหญิงตั้งครรภ์
  • ผู้รับการตรวจควรปรึกษาแพทย์ หากเคยได้รับการกลืนแร่หรือได้รับสารทึบแสง เพื่อทำ CT scan มาก่อน ซึ่งอาจจะต้องเลื่อนการตรวจออกไปประมาณ 2 สัปดาห์
  • ในวันตรวจสามารถรับประทานอาหารและน้ำได้ปกติ

ขั้นตอนการตรวจ

  • ผู้รับการตรวจเปลี่ยนเสื้อผ้า ถอดอุปกรณ์ที่เป็นโลหะ หรือพลาสติกออกจากร่างกาย และนอนลงบนเครื่องตรวจ
  • ใช้เวลาในการตรวจประมาณ 20-30 นาที

ผู้ที่ควรเข้ารับการตรวจวัดความแน่นของมวลกระดูก

  • ผู้หญิงอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป และผู้ชายอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
  • สตรีวัยหมดประจำเดือนที่มีอายุน้อยกว่า 65 ปี และมีปัจจัยเสี่ยงต่อการมีมวลกระดูกต่ำ เช่น น้ำหนักตัวน้อย (มีดัชนีมวลกายน้อยกว่า 19) มีประวัติกระดูกหัก รับประทานยาบางชนิดที่ทำให้มวลกระดูกลดลง เป็นโรคหรือภาวะที่ทำให้มวลกระดูกลดลง
  • ผู้ชายที่มีอายุน้อยกว่า 70 ปี และมีปัจจัยเสี่ยงต่อการมีมวลกระดูกต่ำ เช่น น้ำหนักตัวน้อย (มีดัชนีมวลกายน้อยกว่า 19) มีประวัติกระดูกหัก รับประทานยาบางชนิดที่ทำให้มวลกระดูกลดลง เป็นโรคหรือภาวะที่ทำให้มวลกระดูกลดลง หรือเป็นผู้ที่มีประวัติกระดูกเปราะและหักง่าย
  • ผู้ที่มีโรคหรือภาวะที่ทำให้มวลกระดูกลดลง เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ภาวะต่อมพาราไทรอยด์ทำงานมากเกินไป เป็นต้น
  • ผู้ที่รับประทาน ยา Corticosteroids (ยากลุ่มสเตียรอยด์ที่ใช้ลดอาการอักเสบ) เป็นเวลา 3 เดือนหรือมากกว่า
  • ผู้ที่สูบบุหรี่ ติดเหล้า หรือดื่มหนัก (ดื่มวันละ 3 ครั้งขึ้นไป)
  • ผู้ที่มีพ่อแม่หรือคนในครอบครัวมีประวัติสะโพกหัก
  • ผู้ป่วยที่แพทย์จะเริ่มให้ยาเพื่อการรักษาภาวะกระดูกพรุน
  • ผู้ป่วยที่แพทย์ต้องการติดตามผลการรักษา หลังจากให้ยาเพื่อรักษาภาวะกระดูกพรุน

เครื่องตรวจความหนาแน่นมวลกระดูกแบบ DEXA BMD แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ

  1. Forearm ตรวจกระดูกแขน
  2. Hip ตรวจสะโพก
  3. Spines ตรวจกระดูกสันหลัง
  4. Whole Body ตรวจทั้งร่างกาย

สาระน่ารู้

เเพ็กเกจ



SURAT EYE HOSPITAL

โรงพยาบาลจักษุสุราษฎร์

โรงพยาบาลเฉพาะทางดูแลทางด้านดวงตา โดยจักษุแพทย์ที่มีมาตรฐานวุฒิบัตรวิชาชีพ
มีประสบการณ์ มีความมุ่งมั่น ห่วงใยและใส่ใจในการตรวจรักษา ดูแลและให้คำปรึกษาผู้เข้ารับบริการ อย่างครบวงจร


OPENING HOUR

สามารถติดต่อเข้ารับการรักษาได้ตามเวลา

จันทร์ - ศุกร์

08:00 - 20:00 น.

เสาร์ - อาทิตย์

08:00 - 16:00 น.

44/1 ถนนศรีวิชัย ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000

surateyehospital@gmail.com

077-276-999, 099-048-6660

@surateyehospital

ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล